ผู้จัดทำ
วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561
- หมวดหมู่:คำวิสามานยนามภาษาไทย: คำนามภาษาไทย ที่บ่งชี้ตัวตนที่เป็นเอกเทศ อย่างเช่นชื่อของบุคคล สถานที่ หรือองค์การ
แรกสุด – ก ข ฃ ค ฅ ฆ ง จ ฉ ช ซ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฑฒ ณ ด ต ถ ท ธ น บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ย ร ฤ ล ฦ วศ ษ ส ห ฬ อ ฮ |
หมวดหมู่ย่อย
หมวดหมู่นี้มี 3 หมวดหมู่ย่อยต่อไปนี้ จากทั้งหมด 3 หมวดหมู่
ค
หน้าในหมวดหมู่ "คำนามภาษาไทย"
200 หน้าต่อไปนี้อยู่ในหมวดหมู่นี้ จากทั้งหมด 11,871 หน้า
(หน้าก่อนหน้า) (หน้าถัดไป)
บทที่1
คำซ้อน
คำซ้อน หมายถึง คำที่เกิดจากการสร้างคำโดยนำคำที่มีความหมายเหมือนกัน คล้ายกัน ตรงข้ามกัน หรือมีความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กันในทางใดทางหนึ่งมาเขียนซ้อนกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความหมายเฉพาะหรือความหมายใหม่ขึ้นมา คำซ้อนสามารถจำแนกจุดประสงค์ของการซ้อนคำได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
คำซ้อน หมายถึง คำที่เกิดจากการสร้างคำโดยนำคำที่มีความหมายเหมือนกัน คล้ายกัน ตรงข้ามกัน หรือมีความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กันในทางใดทางหนึ่งมาเขียนซ้อนกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความหมายเฉพาะหรือความหมายใหม่ขึ้นมา คำซ้อนสามารถจำแนกจุดประสงค์ของการซ้อนคำได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
1. ซ้อนเพื่อความหมาย เป็นการนำคำที่มีความหมายสมบูรณ์มาซ้อนกันตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป ได้แก่
1.1 คำที่มีความหมายเหมือนกัน
กัก + ขัง กักขัง
ใหญ่ + โต ใหญ่โต
นุ่ม + นิ่ม นุ่มนิ่ม
กู้ + ยืม กู้ยืม
1.2 คำที่มีความหมายเป็นพวกเดียวกัน
บ้าน + เรือน บ้านเรือน
แข้ง + ขา แข้งขา
ห้าง + ร้าน ห้างร้าน
เนื้อ + ตัว เนื้อตัว
1.3 คำที่มีความหมายเกี่ยวข้องกัน
ลูก + หลาน ลูกหลาน
เหงือก + ฟัน เหงือกฟัน
ข้าว + ปลา ข้าวปลา
พี่ + น้อง พี่น้อง
1.4 คำที่มีความหมายตรงข้ามกัน
ผิด + ชอบ ผิดชอบ
ได้ + เสีย ได้เสีย
เท็จ + จริง เท็จจริง
แพ้ + ชนะ แพ้ชนะ
1.1 คำที่มีความหมายเหมือนกัน
กัก + ขัง กักขัง
ใหญ่ + โต ใหญ่โต
นุ่ม + นิ่ม นุ่มนิ่ม
กู้ + ยืม กู้ยืม
1.2 คำที่มีความหมายเป็นพวกเดียวกัน
บ้าน + เรือน บ้านเรือน
แข้ง + ขา แข้งขา
ห้าง + ร้าน ห้างร้าน
เนื้อ + ตัว เนื้อตัว
1.3 คำที่มีความหมายเกี่ยวข้องกัน
ลูก + หลาน ลูกหลาน
เหงือก + ฟัน เหงือกฟัน
ข้าว + ปลา ข้าวปลา
พี่ + น้อง พี่น้อง
1.4 คำที่มีความหมายตรงข้ามกัน
ผิด + ชอบ ผิดชอบ
ได้ + เสีย ได้เสีย
เท็จ + จริง เท็จจริง
แพ้ + ชนะ แพ้ชนะ
2. ซ้อนเพื่อเสียง เป็นการนำคำที่มีเสียงคล้ายกันมาซ้อนกัน เพื่อให้ออกเสียงง่ายขึ้น คำที่นำมาซ้อนนั้นอาจมีความหมายเพียงคำเดียว หรือไม่มีความหมายทั้งสองคำก็ได้ วิธีการสร้างคำซ้อนเพื่อเสียง ได้แก่
2.1 นำคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกัน แต่เสียงสระต่างกันมาซ้อนกัน เช่น งุ่มง่าม โด่งดัง จริงจัง ซุบซิบ ตูมตาม ซับซ้อน ท้อแท้
2.2 นำคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกัน เสียงสระเดียวกัน แต่เสียงตัวสะกดต่างกันมาซ้อนกัน เช่น อัดอั้น ลักลั่น ออดอ้อน รวบรวม
2.3 นำคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นต่างกัน แต่มีเสียงสระเดียวกันมาซ้อนกัน เช่น แร้นแค้น รอมชอม อ้างว้าง ราบคาบ จิ้มลิ้ม
2.4 นำคำที่ไม่มีความหมายมาซ้อนกับคำที่มีความหมาย เพื่อให้สะดวกในการออกเสียง มักใช้ในภาษาพูดเท่านั้น เช่น กระดูกกระเดี้ยว อดเอิด ตาเตอ พยายงพยายาม
2.5 เพิ่มพยางค์ลงในคำซ้อนเพื่อให้มีเสียงสมดุล พยางค์ที่แทรกมักเป็น "กระ" เช่น
ดุกดิก กระดุกกระดิก
จุ๋มจิ๋ม กระจุ๋มกระจิ๋ม
หนุงหนิง กระหนุงกระหนิง
ตุ้งติ้ง กระตุ้งกระติ้ง
2.6 นำคำซ้อน 4-6 พยางค์ที่มีเสียงสัมผัสภายในคำมาซ้อนกัน ข้าเก่าเต่าเลี้ยง ถ้วยโถโอชาม ประเจิดประเจ้อ ทรัพย์ในดินสินในน้ำ
2.1 นำคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกัน แต่เสียงสระต่างกันมาซ้อนกัน เช่น งุ่มง่าม โด่งดัง จริงจัง ซุบซิบ ตูมตาม ซับซ้อน ท้อแท้
2.2 นำคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกัน เสียงสระเดียวกัน แต่เสียงตัวสะกดต่างกันมาซ้อนกัน เช่น อัดอั้น ลักลั่น ออดอ้อน รวบรวม
2.3 นำคำที่มีเสียงพยัญชนะต้นต่างกัน แต่มีเสียงสระเดียวกันมาซ้อนกัน เช่น แร้นแค้น รอมชอม อ้างว้าง ราบคาบ จิ้มลิ้ม
2.4 นำคำที่ไม่มีความหมายมาซ้อนกับคำที่มีความหมาย เพื่อให้สะดวกในการออกเสียง มักใช้ในภาษาพูดเท่านั้น เช่น กระดูกกระเดี้ยว อดเอิด ตาเตอ พยายงพยายาม
2.5 เพิ่มพยางค์ลงในคำซ้อนเพื่อให้มีเสียงสมดุล พยางค์ที่แทรกมักเป็น "กระ" เช่น
ดุกดิก กระดุกกระดิก
จุ๋มจิ๋ม กระจุ๋มกระจิ๋ม
หนุงหนิง กระหนุงกระหนิง
ตุ้งติ้ง กระตุ้งกระติ้ง
2.6 นำคำซ้อน 4-6 พยางค์ที่มีเสียงสัมผัสภายในคำมาซ้อนกัน ข้าเก่าเต่าเลี้ยง ถ้วยโถโอชาม ประเจิดประเจ้อ ทรัพย์ในดินสินในน้ำ
3. ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำซ้อน เป็นคำซ้อนที่ซ้อนเพื่อความหมายและซ้อนเพื่อเสียง มีข้อสังเกตที่สำคัญดังนี้
3.1 คำที่นำมาซ้อน เป็นคำไทยซ้อนกับคำไทย คำไทยซ้อนกับคำต่างประเทศ หรือคำต่างประเทศซ้อนกับคำต่างประเทศก็ได้ เช่น
คำซ้อนที่มาจาก ไทย + ไทย
ชุก + ชุม ชุกชุม
อ้วน + พี อ้วนพี
ผี + สาง ผีสาง
เจ้า + นาย เจ้านาย
คำซ้อนที่มาจาก ไทย + ต่างประเทศ (ไทย + เขมร)
งาม + ลออ งามลออ
เงียบ + สงบ เงียบสงบ
แบบ + ฉบับ แบบฉบับ
โง่ + เขลา โง่เขลา
คำซ้อนที่มาจาก ต่างประเทศ + ต่างประเทศ (บาลี + สันสกฤต)
อุดม + สมบูรณ์ อุดมสมบูรณ์
เหตุ + การณ์ เหตุการณ์
อิทธิ + ฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์
มิตร + สหาย มิตรสหาย
คำซ้อนที่มาจาก ต่างประเทศ + ต่างประเทศ (เขมร + บาลี)
รูป + ทรง รูปทรง
สุข + สงบ สุขสงบ
พละ + กำลัง พละกำลัง
ภูมิ + ลำเนา ภูมิลำเนา
3.2 จำนวนคำที่นำมาซ้อน คำที่นำมาซ้อนอาจมีจำนวน 2 คำ 4 คำ หรือ 6 คำ คำซ้อนเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คำคู่ เช่น
คำซ้อน 2 คำ ยักษ์มาร ข้าทาส ศีลธรรม ขับขี่ เคร่งครัด งอแง
คำซ้อน 4 คำ กู้หนี้ยืมสิน ชั่วดีถี่ห่าง เจ้าบุญนายคุณ ที่นอนหมอนมุ้ง
คำซ้อน 6 คำ อดตาหลับขับตานอน นอนกลางดินกินกลางทราย
3.3 ความหมายของคำซ้อน แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
3.3.1 ความหมายคงเดิม คำซ้อนบางคำมีความหมายคงตามความหมายของคำที่นำมาซ้อน เช่น แก่ชรา ซากศพ พัดวี เสื่อสาด เป็นต้น
3.3.2 ความหมายใหม่ คำซ้อนที่มีความหมายใหม่มีหลายลักษณะ ดังนี้
ความหมายแคบลง คือ มีความหมายที่เน้นคำใดคำหนึ่ง ซึ่งจะเป็นคำหน้าหรือคำหลังก็ได้ เช่น ปากคอ หัวหู ท้องไส้ เป็นต้น
ความหมายกว้างขึ้น คือ มีความหมายรวมไปถึงอย่างอื่นที่มีลักษณะร่วมกันหรือจำพวกเดียวกัน เช่น
ถ้วยโถโอชาม หมายถึง ภาชนะใส่อาหารและสิ่งของอื่น ๆ
ปู่ย่าตายาย หมายถึง อวัยวะภายใน ไม่เฉพาะตับ ไต และไส้ เท่านั้น
ความหมายเชิงอุปมา คือ มีความหมายเปลี่ยนไป เกิดเป็นคำที่มีความหมายใหม่ในเชิงอุปมา เช่น
ข้าเก่าเต่าเลี้ยง หมายถึง คนที่เคยรับใช้
อยู่กิน หมายถึง การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เจ้าบุญนายคุณ หมายถึง ผู้ที่มีบุญคุณ
ไปลามาไหว้ หมายถึง รู้จักกาลเทศะ
ขิงก็ราข่าก็แรง หมายถึง ร้ายพอ ๆ กันทั้งสองฝ่าย
ข้าวยากหมากแพง หมายถึง ความเป็นอยู่ฝืดเคือง
หัวหายสะพายขาด หมายถึง ไม่มีที่พึ่งพาอาศัย
ดูดดื่ม หมายถึง ความซาบซึ้งใจ
ปากหอยปากปู หมายถึง ชอบนินทาเล็กนินทาน้อย
3.4 ความสัมพันธ์ของเสียงสระ คำที่ซ้อนเพื่อเสียงจะมีความสัมพันธ์ระหว่างสระหลังกับสระหน้า หรือสระอื่น ๆ กับสระอะ สระอา หรือสระเดียวกัน เช่น
สระหลังกับสระหน้า เช่น ดุกดิก จุกจิก อู้อี้ ดู๋ดี๋ โอ้เอ้ โลเล เหลาะแหละ ก๊อกแก๊ก อ้อแอ้
สระเดียวกัน เช่น เปิดเปิง (เฉพาะข้อนี้ไม่ค่อยมีปรากฏ จะมีมาระหว่างสระหลังกับสระหน้า)
3.5 ตำแหน่งและความหมาย คำซ้อนบางคำ ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งของคำ ความหมายจะเปลี่ยนไปจากเดิมและใช้ต่างกัน แต่บางคำมีความหมายคงเดิม เช่น
ความหมายเปลี่ยนแปลง
เหยียดยาว ยืดตัวออกไปในท่านอน ใช้กับคนหรือสัตว์ เช่น น้องสาวนอนเหยียดยาวอยู่ใต้ต้นลีลาวดี
ยาวเหยียด มีความยาวมาก เช่น รถติดไฟแดงเป็นแถบยาวเหยียด
ความหมายคงเดิม
แจกจ่าย แบ่งปันให้ไปทั่ว ๆ เช่น สภากาชาดมาแจกจ่ายสิ่งของให้กับผู้ประสบอุทกภัย
จ่ายแจก เอาออกใช้หรือให้ เช่น คุณครูจ่ายแจกอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แก่นักเรียน
3.1 คำที่นำมาซ้อน เป็นคำไทยซ้อนกับคำไทย คำไทยซ้อนกับคำต่างประเทศ หรือคำต่างประเทศซ้อนกับคำต่างประเทศก็ได้ เช่น
คำซ้อนที่มาจาก ไทย + ไทย
ชุก + ชุม ชุกชุม
อ้วน + พี อ้วนพี
ผี + สาง ผีสาง
เจ้า + นาย เจ้านาย
คำซ้อนที่มาจาก ไทย + ต่างประเทศ (ไทย + เขมร)
งาม + ลออ งามลออ
เงียบ + สงบ เงียบสงบ
แบบ + ฉบับ แบบฉบับ
โง่ + เขลา โง่เขลา
คำซ้อนที่มาจาก ต่างประเทศ + ต่างประเทศ (บาลี + สันสกฤต)
อุดม + สมบูรณ์ อุดมสมบูรณ์
เหตุ + การณ์ เหตุการณ์
อิทธิ + ฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์
มิตร + สหาย มิตรสหาย
คำซ้อนที่มาจาก ต่างประเทศ + ต่างประเทศ (เขมร + บาลี)
รูป + ทรง รูปทรง
สุข + สงบ สุขสงบ
พละ + กำลัง พละกำลัง
ภูมิ + ลำเนา ภูมิลำเนา
3.2 จำนวนคำที่นำมาซ้อน คำที่นำมาซ้อนอาจมีจำนวน 2 คำ 4 คำ หรือ 6 คำ คำซ้อนเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คำคู่ เช่น
คำซ้อน 2 คำ ยักษ์มาร ข้าทาส ศีลธรรม ขับขี่ เคร่งครัด งอแง
คำซ้อน 4 คำ กู้หนี้ยืมสิน ชั่วดีถี่ห่าง เจ้าบุญนายคุณ ที่นอนหมอนมุ้ง
คำซ้อน 6 คำ อดตาหลับขับตานอน นอนกลางดินกินกลางทราย
3.3 ความหมายของคำซ้อน แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
3.3.1 ความหมายคงเดิม คำซ้อนบางคำมีความหมายคงตามความหมายของคำที่นำมาซ้อน เช่น แก่ชรา ซากศพ พัดวี เสื่อสาด เป็นต้น
3.3.2 ความหมายใหม่ คำซ้อนที่มีความหมายใหม่มีหลายลักษณะ ดังนี้
ความหมายแคบลง คือ มีความหมายที่เน้นคำใดคำหนึ่ง ซึ่งจะเป็นคำหน้าหรือคำหลังก็ได้ เช่น ปากคอ หัวหู ท้องไส้ เป็นต้น
ความหมายกว้างขึ้น คือ มีความหมายรวมไปถึงอย่างอื่นที่มีลักษณะร่วมกันหรือจำพวกเดียวกัน เช่น
ถ้วยโถโอชาม หมายถึง ภาชนะใส่อาหารและสิ่งของอื่น ๆ
ปู่ย่าตายาย หมายถึง อวัยวะภายใน ไม่เฉพาะตับ ไต และไส้ เท่านั้น
ความหมายเชิงอุปมา คือ มีความหมายเปลี่ยนไป เกิดเป็นคำที่มีความหมายใหม่ในเชิงอุปมา เช่น
ข้าเก่าเต่าเลี้ยง หมายถึง คนที่เคยรับใช้
อยู่กิน หมายถึง การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เจ้าบุญนายคุณ หมายถึง ผู้ที่มีบุญคุณ
ไปลามาไหว้ หมายถึง รู้จักกาลเทศะ
ขิงก็ราข่าก็แรง หมายถึง ร้ายพอ ๆ กันทั้งสองฝ่าย
ข้าวยากหมากแพง หมายถึง ความเป็นอยู่ฝืดเคือง
หัวหายสะพายขาด หมายถึง ไม่มีที่พึ่งพาอาศัย
ดูดดื่ม หมายถึง ความซาบซึ้งใจ
ปากหอยปากปู หมายถึง ชอบนินทาเล็กนินทาน้อย
3.4 ความสัมพันธ์ของเสียงสระ คำที่ซ้อนเพื่อเสียงจะมีความสัมพันธ์ระหว่างสระหลังกับสระหน้า หรือสระอื่น ๆ กับสระอะ สระอา หรือสระเดียวกัน เช่น
สระหลังกับสระหน้า เช่น ดุกดิก จุกจิก อู้อี้ ดู๋ดี๋ โอ้เอ้ โลเล เหลาะแหละ ก๊อกแก๊ก อ้อแอ้
สระเดียวกัน เช่น เปิดเปิง (เฉพาะข้อนี้ไม่ค่อยมีปรากฏ จะมีมาระหว่างสระหลังกับสระหน้า)
3.5 ตำแหน่งและความหมาย คำซ้อนบางคำ ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งของคำ ความหมายจะเปลี่ยนไปจากเดิมและใช้ต่างกัน แต่บางคำมีความหมายคงเดิม เช่น
ความหมายเปลี่ยนแปลง
เหยียดยาว ยืดตัวออกไปในท่านอน ใช้กับคนหรือสัตว์ เช่น น้องสาวนอนเหยียดยาวอยู่ใต้ต้นลีลาวดี
ยาวเหยียด มีความยาวมาก เช่น รถติดไฟแดงเป็นแถบยาวเหยียด
ความหมายคงเดิม
แจกจ่าย แบ่งปันให้ไปทั่ว ๆ เช่น สภากาชาดมาแจกจ่ายสิ่งของให้กับผู้ประสบอุทกภัย
จ่ายแจก เอาออกใช้หรือให้ เช่น คุณครูจ่ายแจกอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แก่นักเรียน
๑.ข้อใดคือลักษณะของคำซ้อน ?
ก. เกิดจากคำมูลที่มาจากไทยเท่านั้น
ข. เกิดคำมูลที่มีความหมายต่างกันมาซ้อนกัน
ค. นำคำมูลคำเดียวกันมาซ้อนกัน
ง.คำมูลที่มีความหมายอย่างเดียวกันหรือทำนองเดียวกันมาเรียงซ้อนกัน
๒.ข้อใดเป็นคำซ้อน ๒ คำ ?
ก. มะละกอ ว่ากล่าว เสียใจ
ข. สมสู่ ยินดี สึกหรอ
ค. โหวกเหวก นึกคิด เงียบเหงา
ง. ชาวบ้าน ดีใจ รอมชอม
๓.ข้อใดมีคำซ้อนเพื่อความหมายทุกคำ ?
ก. ขัดข้อง ขัดแย้ง หยาบคาย
ข. กักขัง เงอะงะ โคลนตม
ค. สูญหาย อาจหาญ หลุกหลิก
ง. จัดจ้าน มอมแมม ชั่วช้า
๔.ข้อใดมีคำซ้อนเพื่อเสียงมากที่สุด ?
ก. คนอ่อนแอมักจะเจ็บออดแอด
ข. น่าเห็นใจเธอที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ค. คนหลุกหลิกเหลาะแหละจะหละหลวม
ง. เขาส่งเสียงโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน
๕.ข้อใดเป็นคำซ้อนทั้งหมด ?
ก. โง่เง่า ข้องเกี่ยว เอะอะ
ข. รีบด่วน กล้วยตาก แขกยาม
ค. บุกเบิก ไว้ใจ ค้าขาย
ง. ลืมกลืน การบ้าน มือปืน
๖.ข้อใดเป็นคำซ้อนเสียง ?
ก. ถ้วยโถโอชาม
ข. ถุงน่องรองเท้า
ค.เอะอะมะเทิ่ง
ง. น้ำใสใจจริง
๗.ข้อใดมีคำซ้อนมากที่สุด ?
ก. เธออิดหนาระอาใจกับความจองหองพองขนของเขา
ข.เธอขับไล่ไสส่งเขาเพราะมาเอะอะมะเทิ่ง ตีรันฟันแทงที่หน้าบ้าน
ค. เพราะไว้เนื้อเชื่อใจเธอจึงให้เขามาคลุกคลี ตีโมง
ง. เขาต้องอกไหม้ไส้ขมเพราะมืดหน้าตาลาย
๘.ข้อใดมีคำซ้อนมากที่สุด ?
ก. น้องทำเสียงอ้อแอ้คลานเตาะแตะมาหาฉัน
ข.ขอทานแต่งตัวมอมแมมกินอาหารอย่างมูมมามเลอะเทอะเปรอะเปื้อน
ค. เธอเดินเคว้งคว้างมองหาใครสักคนให้ช่วยเหลือ
ง. เพราะความขัดแย้งเธอจึงถูกกักขังอย่างลึกลับ
๙.ข้อใดมีคำซ้อนที่เป็นคำกริยาทุกคำ ?
ก. บ้านเมือง ระอาใจ ว่าง่าย
ข. ตกหล่น ค้าขาย เดินเหิน
ค. เจ็บไข้ ฆ่าฟัน อ้วนพีง. งามวิ
ง.กดขี่ เช้ยเชย
๑๐.ข้อใดมีคำซ้อนเพื่อความหมาย ๒ คำ คำซ้อนเพื่อเสียง ๒คำ ?
ก. จุกจิก กระเบียดกระเสียร รีบด่วน วอกแวก
ข.ไร่นา ซอกซอย ซื่อตรง พรรคพวก
ค. ลูกหลาน หนุ่มสาว ข้าทาส เจรจาปราศรัย
ง. ฝุ่นละออง ช่ำชอง ทุลักทุเล หละหลวม
๑๑.ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
ก. กีดกันกีดขวาง แน่นหนา ข. มดแดง ผ้าลายเสื้อลาย
ค. ลูกไม้ ลมพัด ตาปลา ง. ไฟฟ้า ไฟดับ ดินดำ
๑๒. ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
ก. คมคายคมขำ แอบแฝง ข. ช่างเขียน ช่างไม้ ช่างทอง
ค. ลูกน้อง ลูกพี่ ลูกเขา ง. พ่อตา ตาบอดตาฟา
๑๓. ข้อใดไม่ใช่คำซ้อน
ก. ดูดดื่มขมขื่น เบิกบาน ข. เหลียวแลเดือดร้อน ร้องรำ
ค. กดขี่ แข้งขาซื่อตรง ง. ตายใจ พ่อตา นักร้อง
๑๔. ข้อใดไม่ใช่คำซ้อน
ก. คอหอย หมอดูบ้านพัก ข. ปัดกวาด เช็ดถู อบรม
ค. ขำขัน ค้ำจุน เสื้อผ้า ง. รูปร่าง แก้ไขทรัพย์สิน
๑๕. ข้อใดเป็นคำซ้อน
ก. คับแคบ คอยท่าแปดเปื้อน ข. เบี้ยล่าง วงแขน ลูกชิ้น
ค. หวานเย็น ดูถูก ผัดเผ็ด ง. คุณนาย คุณพระคุณหลวง
๑๖.คำซ้อนในข้อใดมีลักษณะต่างจากพวก
ก.เพ่งเล็ง ข.หนักเบา
ค.ทรุดโทรม ง.ชั่วร้าย
๑๗.คำใดมีคำซ้อนมากที่สุด
ก.ออกแออัดผู้คนอยู่ล้นหลาม
ข.ไม่สมประกอบทรัพย์สินก็ขัดสน
ค.แต่หนาวใจยากแค้นนี้แสนเข็ญ
ง.ในแหล่งหล้าใครไม่มีเสมอเหมือน
๑๘.ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
ก.รีดไถ กล่าวหา เอาอย่าง
ข.แนบชิด กับแกล้ม เก่งกาจ
ค.หมดสิ้น คับแคบ ใหม่เอี่ยม
ง.อ้อยอิ่ง ร้องเรียก โยนกลอง
๑๙.ข้อใดมีคำซ้อนที่มีการซ้อนลักษณะเดียวกับ “ปิดบังซ่อนเร้น” .
ก.ขี้หลงขี้ลืม ข.เสือสิงห์กระทิงแรด
ค.ปัดกวาดเช็ดถู ง.ลืมตาอ้าปาก
๒๐.คำซ้อนในข้อใดมีวิธีประกอบคำต่างกับข้ออื่น
ก.ล้มหมอนนอนเสื่อ ข.ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ค.ตื้นลึกหนาบาง ง.กู้หนี้ยืมสิน
๒๑.ข้อใดเป็นคำซ้อนเพื่อเสียง
ก.เท็จจริง ข.ขึงขัง
ค.บ้านเรือน ง.ห่างไกล
๒๒.ข้อใดเป็นคำซ้อนที่ประกอบด้วยคำที่มีความหมายเหมือนกันหรือคล้ายกัน
ก.แข้งขา ข.รูปภาพ
ค.จู้จี้ ง.ลูกหลาน
๒๓.ข้อใดเป็นคำซ้อนที่ประกอบด้วยคำที่มีความหมายตรงข้ามกัน
ก.ไปมา ข. พี่น้อง
ค.เลอะเทอะ ง.ตกหล่น
๒๔.ข้อใดเป็นคำซ้อนที่ประกอบด้วยคำที่มีความหมายในทำนองเดียวกันหรือพวกเดียวกัน
ก.หนุ่มสาว ข.ใหญ่โต
ค.วนเวียน ง.แกว่งไกว
๒๕.ข้อใดเป็นคำซ้อนทุกคำ
ก.ติดใจ ซุกซุน คัดเลือก
ข.ห้ามปราม ฉลาดเฉลียว ว่องไว
ค.ซีดเซียว หน้าตา ใจดำ
ง.ความหมาย ทรุดโทรม น่ารัก
ก. เกิดจากคำมูลที่มาจากไทยเท่านั้น
ข. เกิดคำมูลที่มีความหมายต่างกันมาซ้อนกัน
ค. นำคำมูลคำเดียวกันมาซ้อนกัน
ง.คำมูลที่มีความหมายอย่างเดียวกันหรือทำนองเดียวกันมาเรียงซ้อนกัน
ก. มะละกอ ว่ากล่าว เสียใจ
ข. สมสู่ ยินดี สึกหรอ
ค. โหวกเหวก นึกคิด เงียบเหงา
ง. ชาวบ้าน ดีใจ รอมชอม
ก. ขัดข้อง ขัดแย้ง หยาบคาย
ข. กักขัง เงอะงะ โคลนตม
ค. สูญหาย อาจหาญ หลุกหลิก
ง. จัดจ้าน มอมแมม ชั่วช้า
ก. คนอ่อนแอมักจะเจ็บออดแอด
ข. น่าเห็นใจเธอที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ค. คนหลุกหลิกเหลาะแหละจะหละหลวม
ง. เขาส่งเสียงโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน
ก. โง่เง่า ข้องเกี่ยว เอะอะ
ข. รีบด่วน กล้วยตาก แขกยาม
ค. บุกเบิก ไว้ใจ ค้าขาย
ง. ลืมกลืน การบ้าน มือปืน
ก. ถ้วยโถโอชาม
ข. ถุงน่องรองเท้า
ค.เอะอะมะเทิ่ง
ง. น้ำใสใจจริง
ก. เธออิดหนาระอาใจกับความจองหองพองขนของเขา
ข.เธอขับไล่ไสส่งเขาเพราะมาเอะอะมะเทิ่ง ตีรันฟันแทงที่หน้าบ้าน
ค. เพราะไว้เนื้อเชื่อใจเธอจึงให้เขามาคลุกคลี ตีโมง
ง. เขาต้องอกไหม้ไส้ขมเพราะมืดหน้าตาลาย
ก. น้องทำเสียงอ้อแอ้คลานเตาะแตะมาหาฉัน
ข.ขอทานแต่งตัวมอมแมมกินอาหารอย่างมูมมามเลอะเทอะเปรอะเปื้อน
ค. เธอเดินเคว้งคว้างมองหาใครสักคนให้ช่วยเหลือ
ง. เพราะความขัดแย้งเธอจึงถูกกักขังอย่างลึกลับ
ก. บ้านเมือง ระอาใจ ว่าง่าย
ข. ตกหล่น ค้าขาย เดินเหิน
ค. เจ็บไข้ ฆ่าฟัน อ้วนพีง. งามวิ
ก. จุกจิก กระเบียดกระเสียร รีบด่วน วอกแวก
ข.ไร่นา ซอกซอย ซื่อตรง พรรคพวก
ค. ลูกหลาน หนุ่มสาว ข้าทาส เจรจาปราศรัย
ง. ฝุ่นละออง ช่ำชอง ทุลักทุเล หละหลวม
ก. กีดกันกีดขวาง แน่นหนา ข. มดแดง ผ้าลายเสื้อลาย
ค. ลูกไม้ ลมพัด ตาปลา ง. ไฟฟ้า ไฟดับ ดินดำ
ก. คมคายคมขำ แอบแฝง ข. ช่างเขียน ช่างไม้ ช่างทอง
ค. ลูกน้อง ลูกพี่ ลูกเขา ง. พ่อตา ตาบอดตาฟา
ก. ดูดดื่มขมขื่น เบิกบาน ข. เหลียวแลเดือดร้อน ร้องรำ
ค. กดขี่ แข้งขาซื่อตรง ง. ตายใจ พ่อตา นักร้อง
ก. คอหอย หมอดูบ้านพัก ข. ปัดกวาด เช็ดถู อบรม
ค. ขำขัน ค้ำจุน เสื้อผ้า ง. รูปร่าง แก้ไขทรัพย์สิน
ก. คับแคบ คอยท่าแปดเปื้อน ข. เบี้ยล่าง วงแขน ลูกชิ้น
ค. หวานเย็น ดูถูก ผัดเผ็ด ง. คุณนาย คุณพระคุณหลวง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ผู้จัดทำ
ผู้จัดทำ
-
ผู้จัดทำ